คำถามที่พบบ่อย

แตกต่างกันที่รสชาติ เครื่องดื่มทั้งสองชนิดล้วนไม่มีน้ำตาลและแคลอรี รูปลักษณ์และรสชาติของ โค้ก ไม่มีน้ำตาล เหมือนกับ โค้ก รสชาติ ออริจินัล ในขณะที่ โค้ก ไลท์มีการผสมผสานของรสชาติที่แตกต่างออกไป ทำให้ได้รสชาติที่เบากว่า

ในแต่ละวัน เราส่งมอบเครื่องดื่มมากกว่า 1.9 พันล้านเสิร์ฟในกว่า 200 ประเทศ/เขตการปกครอง

เครื่องดื่มส่วนใหญ่ของเรา อย่างเช่น โค้ก รสชาติออริจินัล วางจำหน่ายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนเครื่องดื่มบางชนิดวางจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับความชอบและรสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น รสชาติของเครื่องดื่มบางชนิดเป็นที่นิยมมากกว่าในอีกประเทศ นอกจากนี้เราใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

ส่วนผสมและกระบวนการพื้นฐานของการผลิต โค้ก เหมือนกันในทุกประเทศ แม้ว่าผู้บริโภคจะรับรู้รสชาติต่างกันก็ตาม  รสชาติของน้ำอัดลมชนิดเดียวกันอาจแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิในขณะที่บริโภค อาหารที่บริโภคพร้อมเครื่องดื่ม หรือสภาวะที่เก็บไว้ก่อนบริโภค

รสชาติของ โค้ก เหมือนกันไม่ว่าคุณจะดื่มจากกระป๋องหรือขวด เพราะ โค้ก มีสูตรเดียว ใช้ส่วนผสมและกระบวนการผลิตเหมือนกัน 

คุณรู้หรือไม่ว่า การรับรู้รสชาติขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความเย็นของเครื่องดื่ม ดื่มจากกระป๋องหรือในแก้วโดยตรง ก็อาจได้รสชาติที่ต่างกัน 

35 กรัม ในกระป๋องขนาด 330 มิลลิลิตร

โดยปกติแล้ว โค้ก รสชาติออริจินัล 100 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 10.6 กรัม 

ไม่มีเลย

เราใช้สารให้ความหวานที่มีแคลอรีต่ำ เพื่อให้ โค้ก ไลท์มีรสชาติที่ดีโดยไม่ใส่น้ำตาล

ใช่ มีคาเฟอีนอยู่ในผลิตภัณฑ์ โค้ก ของเรา

ไม่มีเลย

เราใช้สารให้ความหวานที่มีแคลอรีต่ำ เพื่อให้ โค้ก ไม่มีน้ำตาล มีรสชาติที่เหมือนโค้ก รสชาติออริจินัล

ผู้บริโภคจำนวนมากอาจจะแปลกใจที่รู้ว่าคาเฟอีนเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่มีส่วนทำให้รสชาติของโค้ก เป้นเอกลักษณ์ คาเฟอีนเป็นส่วนประกอบทั่วไปในเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ชา และน้ำอัดลม เราเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มคาเฟอีนและไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการดื่มตลอดเวลา เราจึงนำเสนอเครื่องดื่มที่ปราศจากคาเฟอีน เช่น สไปรท์และแฟนต้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตนเองและครอบครัว

คุณรู้หรือไม่ว่า โค้กมีปริมาณคาเฟอีนเพียงเล็กน้อย ในโค้ก รสชาติออริจินัล ขนาด  330 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 32 มิลลิกรัม

การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง คือความมุ่งมั่นที่สำคัญที่สุดของโคคา-โคล่า เครื่องดื่มของเราทั้งหมดมีส่วนผสมที่ปลอดภัยและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และกฎระเบียบทางโภชนาการของประเทศไทย

ใช่ ได้การรับรองฮาลาล 

ซูคราโลส, อะซีซัลเฟม เค และโซเดียม ไซคลาเมต เป็นสารให้ความหวานที่มีใช้อยู่ในผลิตภัณฑ์ของโคคา-โคลา ประเทศไทย  สารให้ความหวานใน โค้ก ไม่มีน้ำตาล มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายรับรองความปลอดภัย  เราใช้สารให้ความหวานที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอาหารระหว่างประเทศ ดังนั้นผู้บริโภคสามารถบริโภคผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย

ซูคราโลสและเอซีซัลเฟมเค ซึ่งเป็นสารให้ความหวานที่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายรับรองความปลอดภัย  เราใช้สารให้ความหวานที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอาหารระหว่างประเทศ ดังนั้นผู้บริโภคสามารถบริโภคผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย

เราแนะนำให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานที่มีคำถามเกี่ยวกับการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มปรึกษาแพทย์

สำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เรามีเครื่องดื่มหลากหลายประเภทที่ลดปริมาณน้ำตาล แคลอรีต่ำ  และไม่มีน้ำตาลรวมถึงแคลอรี เช่น โค้ก ไม่มีน้ำตาล แฟนต้า ไม่มีน้ำตาล สไปรท์ ไม่มีน้ำตาล และยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายในขนาดแพ็คเล็ก

เราให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลและแคลอรีในเครื่องดื่มของเรา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลสำหรับการบริโภคของตนเองและครอบครัว

ผู้คนดื่มด่ำกับเครื่องดื่มของเรามากว่า 135 ปี ด้วยรสชาติที่เป็นที่ชื่นชอบ เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือต้องให้ทางเลือกแก่ผู้บริโภค เราจึงนำเสนอเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมที่มีลดน้ำตาลและแคลอรี หรือไม่มีเลย เช่น โค้ก ไม่มีน้ำตาล แฟนต้า ไม่มีน้ำตาล สไปรท์ ไม่มีน้ำตาล เนื่องจากเราเข้าใจดีว่าบางคนชอบที่จะควบคุมสัดส่วนการบริโภคของตน เราจึงนำเสนอเครื่องดื่มหลากหลายขนาด เรายังให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณน้ำตาลและแคลอรีในเครื่องดื่มของเรา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลสำหรับการบริโภคของตนเองและครอบครัว

อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือเป็นกรด รวมถึงน้ำอัดลม อาจทำให้ฟันผุและสึกกร่อนได้ หากบริโภคบ่อยๆ กุญแจสำคัญในการมีสุขภาพฟันที่ดีคือสุขอนามัยฟันที่ดีและแปรงฟันเป็นประจำ การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

เราแนะนำให้ผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพฟันติดต่อทันตแพทย์

คุณรู้หรือไม่ว่า การแปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันที่มี่ส่วนผสมของฟลูออไรด์และการไปพบแพทย์เป็นประจำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องฟันของคุณ

สามารถดื่มได้ จากข้อมูลของหน่วยงานความปลอดภัยอาหารของสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority: EFSA)  สตรีมีครรภ์สามารถบริโภคคาเฟอีนได้ 200 มิลลิกรัม ต่อวัน โค้ก รสชาติออริจินัล มีคาเฟอีน 32 มิลลิกรัม ต่อกระป๋อง 330 มิลลิลิตร และ โค้ก ไม่มีน้ำตาล มีคาเฟอีน 33 มิลลิกรัม 

ผู้บริโภคมักจะแปลกใจที่รู้ว่า โค้ก ไม่มีน้ำตาล มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟหรือชาที่เสิร์ฟในขนาดเท่ากัน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มปราศจากคาเฟอีน เช่น แฟนต้าและสไปรท์ เรามีเครื่องดื่มปราศจากคาเฟอีนหลากหลายประเภท ให้เลือกบริโภคสำหรับตนเองและครอบครัว

ผู้ที่มีคำถามเกี่ยวกับการบริโภคคาเฟอีนควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ 

เราต้องการให้ผู้บริโภคสามารถดื่มด่ำกับรสชาติของ โค้ก ได้โดยปราศจากน้ำตาล การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ  แต่อย่างไรก็ดีน้ำตาลสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้เมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

หากคุณเลิกดื่ม โค้ก เพราะกังวลเรื่องปริมาณน้ำตาล เราอยากให้ลอง โค้ก ไม่มีน้ำตาล ที่จะเป็นตัวเลือกใหม่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติของ โค้ก แต่ต้องการจำกัดการบริโภคน้ำตาล 

เนื่องจากผู้บริโภคแต่ละคนมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ดังนั้นคำตอบของคำถามนี้จึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย

ผลิตภัณฑ์ของเราหลายชนิดมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบซึ่งมีแคลอรี แม้ว่าเราสามารถบริโภคน้ำตาลได้ในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ก็ไม่ดีหากบริโภคมากเกินไป  เช่นเดียวกันกับอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ นำอัดลมที่มีน้ำตาลสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการบริโภคในชีวิตประจำวันได้ หากบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ 

โค้ก ไม่มีโคเคนหรือสารอันตรายอื่นๆ และโคเคนไม่เคยเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม โค้ก

มีข่าวลือว่าด้วยสภาพความเป็นกรดของเครื่องดื่ม โค้ก สามารถใช้ทำความสะอาดห้องน้ำและแบตเตอรี่รถยนต์ที่สึกกร่อน คลายกลอนประตูที่เป็นสนิมและขจัดคราบสนิมออกจากกันชนรถ ขจัดคราบไขมันจากเสื้อผ้า และทำความสะอาดฝ้าบนกระจกหน้ารถ

ในเครื่องดื่ม โค้ก มีกรดที่รับประทานได้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ และเป็นไปได้อย่างยิ่งที่กรดที่กินได้นี้สามารถทำสิ่งที่ข่าวลืออ้างถึง อย่างไรก็ตามเราไม่แนะนำให้ใช้เครื่องดื่มโค้กเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ เหล่านี้ ผู้บริโภคควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับงานต่างๆ

คุณรู้หรือไม่ว่า กรดในเครื่องดื่มโค้กนั้นปลอดภัยสำหรับการบริโภค เนื่องจากไม่ได้เข้มข้นเท่ากับกรดในกระเพาะอาหาร

คุณจะทำอย่างนั้นก็ได้ แต่โค้กคงไม่ได้ช่วยทำให้ห้องน้ำสะอาดขึ้นได้มากนัก ทางที่ดีคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำเป็นการเฉพาะมากกว่า  ในเครื่องดื่ม โค้ก มีกรดฟอสฟอริก ซึ่งเป็นที่มาของรสเปรี้ยว และอาจช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกได้บ้าง ซึ่งคุณสมบัตินี้ก็มีในอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรดอื่นๆ เช่น น้ำมะนาว เช่นกัน อย่างไรก็ตาม โค้ก ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ และมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายหลากหลายที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดีกว่าโค้กมาก

ไม่ เครื่องดื่มโค้กไม่สามารถละลายฟันในชั่วข้ามคืนได้ เนื่องจากโค้กมีเพียงกรดอ่อนๆ ที่สามารถรับประทานได้ เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม  อย่างไรก็ตาม กรดในอาหารเหล่านี้ไม่เข้มข้นมากพอที่จะทำลายเนื้อเยื่อในร่างกาย อันที่จริงกรดในกระเพาะอาหารตามธรรมชาติ มีความเป็นกรดมากกว่าเสียอีก อาหารและเครื่องดื่มใดๆ ที่เป็นกรด รวมถึงน้ำอัดลม ต่างมีส่วนทำให้เกิดการสึกกร่อนของฟันได้ คุณสามารถลดความเสี่ยงต่อฟันผุและการสึกกร่อนได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยของฟันที่ดี วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องฟัน คือ การแปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

นี่คือสิ่งที่เล่าขานกันมา แม้จะเป็นความจริงที่ว่า การใส่เมนทอส ลงในขวดโค้กจะส่งผลให้มีฟองพุ่งออกมาจากขวด แต่การรับประทานเมนทอสหลังดื่มโค้กจะไม่ให้ผลเช่นเดียวกัน การปะทุของเมนทอส เมื่อผสมกับเครื่องดื่มโค้กเกิดจากสารเคลือบขนม ซึ่งทำให้ฟองจำนวนมากก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวเมื่อใส่ในเครื่องดื่มอัดลม อย่างไรก็ตาม เมื่อรับประทาน ลูกอมจะเริ่มละลายทันที จะไม่เกิดปฏิกิริยาในกระเพาะอาหารแบบเดียวกัน

เราสามารถรับประกันได้ว่าการกินทุเรียนและดื่ม โค้ก ไปพร้อมๆ กันจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ

กว่า 135 ปีที่ผู้บริโภคดื่มด่ำกับเครื่องดื่มโค้กอย่างปลอดภัย โค้ก มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาเฟอีน เช่นเดียวกับน้ำอัดลมอื่นๆ ที่สามารถบริโภคได้ในปริมาณที่พอเหมาะ  เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงตัวเลือกแบบน้ำตาลน้อย ไม่มีน้ำตาล และไม่มีคาเฟอีน เพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ดร.จอห์น เอส เพมเบอร์ตัน คิดค้นเครื่องดื่ม โค้ก เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2429 ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ดร. เพมเบอร์ตันทดลองจำหน่ายในราคาแก้วละ 5 เซ็นต์ กับลูกค้าที่ร้านขายยา Jacobs' Pharmacy ของเขา และได้รับความนิยมอย่างมาก

คุณรู้หรือไม่ว่า แฟรงค์ เอ็ม โรบินสัน ซึ่งเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของ ดร. เพมเบอร์ตัน เป็นผู้คิดค้นชื่อ โคคา-โคล่า เขาเขียนด้วยมือโดยใช้ตัวอักษร Spencerian ที่เรายังคงใช้เป็นโลโก้อยู่จนทุกวันนี้